วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

10. ซอฟแวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ (3 มิติ)

Sweet Home 3D (โปรแกรม Sweet Home ออกแบบภายใน 3 มิติ ฟรี) : โปรแกรมออกแบบบ้าน Sweet Home 3D นี้เป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ยอดฮิต จากเมืองน้ำหอม ประเทศฝรั่งเศส มันเป็นโปรแกรมที่จะมาช่วยให้คุณ ออกแบบภายใน บ้าน หรือตกแต่งภายในบ้าน นับว่าเป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ที่ช่วยคุณจัดวางเฟอร์นิเจอร์บนแปลนบ้านแบบ 2 มิติ และสามารถสร้างมุมมองแบบ 3 มิติ ใส่แสงสี เข้าไปได้ เพื่อความสวยงาม และง่ายต่อความเข้าใจ เรียกได้ว่าใครๆ ก็สามารถออกแบบบ้าน ตัวเองได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสถาปนิก ก็สามารถทำได้ง่าย แบบที่คนอื่นก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ด้วย โปรแกรมออกแบบบ้าน Sweet Home 3D ตัวนี้
โดยใน โปรแกรม Sweet Home 3D นี้มีเครื่องมือหลายอย่างช่วยในการวาดแบบแปลนของบ้านและ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน คุณอาจวาดผนังห้องจากแบบแปลนที่มีอยู่แล้ว ลากและวางเฟอร์นิเจอร์ลงบนแปลนจากแคตตาล็อก (Catalogue) ที่จัดแบ่งตามหมวดหมู่ การเปลี่ยนแปลงใด ๆ บนแปลน 2 มิติ จะถูกปรับในมุมมอง 3 มิติไปในขณะเดียวกัน เพื่อแสดงภาพเสมือนจริงของการจัดวางนั้นๆ แบบสุดๆ เรียกได้ว่า ถ้ามี โปรแกรมออกแบบบ้าน Sweet Home 3D โปรแกรมนี้ไม่ต้องไปจ้าง สถาปนิก ช่วยออกแบบเลย เราเองก็สามารถทำได้ ออกแบบภายในบ้าน ด้วย โปรแกรมออกแบบบ้าน นี้ได้อย่างสบายๆ
ทีมงาน Thaiware.com ก็ได้ใช้โปรแกรมนี้ ช่วยในการ ออกแบบสำนักงาน (ออกแบบออฟฟิศ) การจัดวางโต๊ะ จัดที่นั่ง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ ที่นั่งของทีมงานเรา ดูได้จากรูปประกอบด้านล่างนี้เลย ซึ่งถือได้ว่านำไปใช้งานจริงๆ และพอจัดออกมาจริงๆ แล้ว มันช่วยออกมาดูดีมากๆ อีกต่างหาก จะได้ไม่ต้องย้ายของ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปมาหลายๆ รอบ



cradit by http://software.thaiware.com/10474-Sweet-Home-3D.htm

9. ซอฟแวร์ที่ใช้ในงานออกแบบ (2 มิติ)

LibreCAD (โปรแกรมออกแบบ โปรแกรมวาดแบบ 2 มิติ) : โปรแกรมออกแบบ LibreCAD เป็น โปรแกรมออกแบบ 2 มิติ หรือที่เรียกว่า CAD 2D (Computer-Aided Design Program) ที่อยู่ในโปรเจคโอเพ่นซอร์ส (Open-Source) หากได้ยินชื่อนี้เมื่อไหร่ พึงระลึกเอาไว้เลยว่า แจกฟรี แน่นอน เพราะเป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นจากนักพัฒนาโปรแกรมฝีมือดีจากทั่วโลก ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน โปรแกรมออกแบบ ตรงนี้ได้เป็นพื้นที่ ที่จะมาร่วมออกแบบแลัพัฒนาร่วมกัน โดย โปรแกรมออกแบบ ตัวนี้สามารถออกแบบวัตถุต่างๆ ได้ 2 มิติ (2D) เท่านั้น ซึ่งสามารถใช้ออกแบบวัตถุ สื่งของ หรืออะไรก็ได้ที่ง่ายๆ อาทิเช่น กลไกของเครื่องจักรกล วิศวกรออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น เป็น โปรแกรมออกแบบบ้าน ได้ดี หรือจะไปใช้ ออกแบบครัวเรือน ออกแบบตึก ออกแบบอาคาร ออกแบบห้อง เพื่อใช้สอยในกิจการ หรือ สถานการณ์ ต่างๆ รวมไปถึงการ ออกแบบถุงพลาสติก ออกแบบเสื้อผ้า ด้านหน้าด้านหลัง ได้เป็นอย่างดี 



ogram Features (คุณสมบัติและความสามารถหลักๆ ของ โปรแกรมออกแบบ 2 มิติ LibreCAD)
  • เป็นโปรเจคโอเพ่นซอร์ส พัฒนาขึ้นมาเพื่อ แจกฟรี 100% ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีโฆษณาแฝง ใดๆ ติดพ่วงมากับโปรแกรม ให้คุณไปใช้ออกแบบ วาดแบบ กันเลยฟรีๆ แต่หากต้องการบริจาค สามารถบริจาคเพื่อสนับสนุนทีมผู้พัฒนา ได้ที่หน้าเว็บของเขาได้เลย
  • มีหลากหลายภาษาให้เลือก มากถึงเกือบ 30 ภาษา จากทั่วโลก
  • ใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการ (Operating Systems) อย่าง Windows และ Mac OS หรือแม้กระทั่ง Linux OS
  • มีเครื่องมีช่วยวาดแบบ ออกแบบ หลากหลาย อาทิเช่น เส้นตรง ส่วนโค้ง วงกลม ทรงเหลี่ยม วาดเส้น ลากเส้นอิสระ กำหนดจุดต่างๆ ฯลฯ อีกมากมาย
  • สามารถกำหนดขนาดสเกล (Scale) ของวัตถุได้แบบสมจริง
  • มีเครื่องมือการวัดขนาดของเส้น วัตถุต่างๆ ในโปรแกรมออกแบบ ตัวนี้ที่แม่นยำ
  • มีความสามารถในการขยายภาพเพื่อ ออกแบบ วาดแบบ ได้หลายเท่า และเสียความคมชัด ไปอย่างน้อยที่สุด เพื่อเพิ่มทัศนวิสัย ในการมองเห็นภาพที่ชัดเจน มากยิ่งขึ้น
  • มีระบบการสอนการใช้งาน การสนับสนุนการใช้งานโปรแกรมที่ดีมากๆ
  • ข้อเสียของมันคือ ไม่สนับสนุนภาพแบบ 3 มิติใดๆ และ สนับสนุนไฟล์เฉพาะ DXF และ CXF เท่านั้น
  • โปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่ถึง 30 MB.
  • และความสามารถอื่นๆ อีกมากมาย

cradit by  http://software.thaiware.com/10474-Sweet-Home-3D.htm

8. เทคโนโลยีสะอาด

เทคโนโลยีสะอาด (CLEAN TECHNOLOGY)

 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงได้มีการนำเทคโนโลยีสะอาด
 (CLEAN TECHNOLOGY) หรือมีชื่ออื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน หรือเหมือนกันอีกคือ
การป้องกันมลพิษ (POLLUTION PREVENTION) หรือ P2) การผลิตที่สะอาด (CLEANER PRODUCTION หรือ
 CP) และการลดของเสีย ให้น้อยที่สุด (WASTE MINIMIZATION) มาใช้
 ซึ่งทั้งหมดเป็นการป้องกัน
 ของเสียที่แหล่งกำเนิด แทนการควบคุมบำบัด และจัดของเสียแบบเดิม
ที่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว
ค่าใช้จ่ายสูงกว่า การใช้เทคโนโลยีสะอาด จะเป็นวิธีการ นำไปสู่มาตรฐาน
 การจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14000 ซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในวงการค้า ในโลกปัจจุบันด้วย
ความหมายโดยสรุปของ "เทคโนโลยีสะอาด" ก็คือ กลยุทธ์ในการปรับปรุง ผลิตภัณฑ์
 บริการ และกระบวนการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการทรัพยากร อย่างมีประสิทธิภาพ
ให้เปลี่ยนเป็นของเสีย
น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด จึงเป็นทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม
 และการลดค่าใช้จ่าย ในการผลิตไปพร้อม ๆ กันด้วย สำหรับประเทศไทย
การนำเทคโนโลยีสะอาด
 มาใช้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. เป็นการเสริมสร้าง ความสามารถ ในการแข่งขัน ในตลาดโลก
 เนื่องจากความได้เปรียบ
ด้านต้นทุนและแรงงาน ของอุตสาหกรรมไทยมีน้อยลง
2. เป็นการพัฒนาขีดความสามารถ และประสิทธิภาพ ของการประกอบธุรกิจ
 เพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืน
 ให้สอดคล้องกับ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8
หลักการของเทคโนโลยีสะอาด

      1. การลดมลพิษที่แหล่งกำเนิด แบ่งได้เป็น 2 แนวทางใหญ่ ๆ คือ การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์
 และการเปลี่ยนแปลง กระบวนการผลิต
    1.1 การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ อาจทำได้โดย การออกแบบ ให้มีผลกระทบ ต่อสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด
 หรือให้มีอายุการใช้งาน ยาวนานขึ้น เช่น ปรับเปลี่ยนสูตรของผลิตภัณฑ์ เพื่อลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม
 เมื่อผู้บริโภคนำไปใช้ ยกเลิกการใช้ชิ้นส่วน หรือองค์ประกอบในผลิตภัณฑ์ ที่ไม่สามารถ
 นำกลับมาใช้ใหม่ได้
 และยกเลิกหีบห่อบรรจุ ที่ไม่จำเป็น เป็นต้น
    1.2 การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิต แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ การเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ
 การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และการปรับปรุง กระบวนการดำเนินงาน
        1.2.1 การเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบ โดยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ หรือมีความบริสุทธิ์สูง
 รวมทั้งลดหรือยกเลิก การใช้วัตถุดิบ ที่เป็นอันตราย เพื่อหลีกเลี่ยง การเติมสิ่งปนเปื้อน
 เข้าไปในกระบวนการผลิต และพยายามใช้วัตถุ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
 เช่น การเปลี่ยนหมึกพิมพ์เขียน จากประเภทใช้ตัวทำละลายเคมี ไปเป็นการใช้น้ำ
เป็นตัวทำละลาย หรือเลิกใช้หมึกพิมพ์ ที่มีแคดเมียม ตลอดจนการไม่ใช้น้ำยาไซยาไนด์
 หรือแคดเมียมในการชุบโลหะ เป็นต้น
        1.2.2 การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ทำได้โดยการออกแบบใหม่ เพิ่มระบบอัตโนมัติ
 เข้าช่วยปรับปรุง คุณภาพของอุปกรณ์ และแสวงหาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น
เปลี่ยนอุปกรณ์ ตำแหน่งการวางอุปกรณ์ หรือระบบท่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการเคลื่อนย้าย หรือขนถ่ายอุปกรณ์
ใช้ระบบอัตโนมัติ หรืออุปกรณ์ควบคุม ช่วยลดผลผลิตที่ด้อยคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน
ปรับปรุงการดำเนินการผลิต เช่นอัตราการไหลอุณหภูมิ ความดันหรือระยะเวลา
 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
 และลดปริมาณของเสีย
ติดตั้งอุปกรณ์การล้างน้ำ แบบทวนกระแส (COUNTER CURRENT FLOW)
ติดตั้งมอเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ และควบคุมความเร็วของมอเตอร์ เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงาน
สำหรับตัวอย่าง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ได้แก่ การเปลี่ยนกรรมวิธี ในการล้างฟิล์ม
 ในอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ โดยเปลี่ยนจากการใช้น้ำ ไปเป็นแบบแห้ง
 ตลอดจนการเลิกใช้ตัวทำละลาย (SOVENT) ที่มีสารคลอโรฟูออโรคาร์บอน (CFC)
แล้วหันไปใช้ ตัวทำละลายที่ไม่มี CFC หรือใช้น้ำ และ DETERGENT
ในการทำความสะอาดชิ้นงานแทน
        1.2.3 การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เป็นขั้นตอนที่ทำให้ ได้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น
 เพราะผลิตภัณฑ์ที่เสียลดลง และยังทำให้เกิดของเสีย ที่จะต้องจัดการกำจัดลดน้อยลง
 โดยกำหนดให้มีขั้นตอนการผลิต กระบวนการงาน และขั้นตอนบำรุงรักษาที่ชัดเจน
รวมถึงการจัดระบบ การบริหารการจัดการในโรงงาน ตัวอย่างเช่น วางแผนการผลิต
 เพื่อลดความจำเป็น ที่จะต้องล้างเครื่องจักร หรืออุปกรณ์บ่อย ๆ กำจัดขนาดของ
 จำนวนการผลิตแต่ละครั้ง ให้เหมาะสม เพื่อลดปริมาณของเสีย ติดตั้งเครื่องจักร หรืออุปกรณ์
 ในลักษณะที่ลดการรั่วไหล สูญเสียและปนเปื้อน ในระหว่างการผลิต ที่มีการเคลื่อนย้าย
จนถ่ายชิ้นส่วนหรือวัสดุต่างๆ เป็นต้น
2. การนำกลับมาใช้ใหม่ แบ่งออกได้เป็น 2 แนวทางคือ การนำผลิตภัณฑ์ มาใช้ใหม่
หรือการใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียน และการใช้เทคโนโลยีหมุนเวียน
    2.1 การใช้ผลิตภัณฑ์หมุนเวียน โดยหาทางนำวัตถุดิบ ที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ประโยชน์
 หรือหาทางใช้ประโยชน์ จากสารหรือวัสดุ ที่ปนอยู่ในของเสีย โดยนำมาใช้ ในกระบวนการผลิตเดิม
 หรือกระบวนการผลิตอื่นๆ
    2.2 การใช้เทคโนโลยีหมุนเวียน เป็นการนำเอาของเสีย ผ่านกระบวนการต่างๆ
 เพื่อนำเอาทรัพยากร กลับมาใช้อีก หรือเพื่อทำให้เป็นผลพลอยได้ เช่น การนำน้ำหล่อเย็น
 น้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต และตัวทำละลาย ตลอดจนวัสดุอื่น ๆ กลับมาใช้ใหม่ในโรงงาน
 การนำพลังงานความร้อนส่วนเกิน หรือเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่
การนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ (RECYCLE) ควรทำ ณ จุดกำเนิด มากกว่าการขนย้าย
 ไปจัดการที่อื่น โดยเฉพาะของเสีย ที่เกิดจากการปนเปื้อน ของวัตถุดิบ
 เช่น การกลั่นแยกตัวทำละลาย เพื่อใช้ขจัดคราบไขมัน ชิ้นงานกลับมาใช้ใหม่
 หรือการแยกน้ำเสียด้วยไฟฟ้า เพื่อแยกดีบุก ทองแดง หรือตะกั่ว กลับมาใช้งาน
 ซึ่งจะทำได้ง่าย และมีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งลดอัตราเสี่ยง จากการปนเปื้อน
 ในระหว่างรวบรวมหรือขนถ่าย


cradit by https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=1&cad=rja&uact=8&ved
=0CB0QFjAAah
UKEwi4o4GP_uPGAhUIc44KHbKVAPU&url=http%3A%2F%2Fenv.swu.ac.th%2Fmain53%2F34biotec
h%2520Envi%2Fbiot%2520envi%2520main3.html&ei=J-mpVfjzA4jmuQSyq4KoDw&usg=AFQjCNHhPkQdtDjR4PGYs96SD12BYnt77w&sig2=LfG6KkxRqqW
UMQok6pII3Q

7. 5W1H

การใช้เทคนิค 5W1H ในการวิเคราะห์ปัญหา

จากเว็บ en.wikipedia.org กล่าวไว้โดยสรุปว่า 5W1H มีการบันทึกไว้โดย Rudyard Kipling ใน “Just So Stories” ซึ่งเป็นบทกวีประกอบเรื่อง “The Elephant’s Child” โดยเปิดเรื่องด้วย
“I keep six honest serving-men
(They taught me all I knew);
Their names are What and Why and When
And How and Where and Who.”
และนี่คือเหตุผลหนึ่งที่วิธีแก้ปัญหา 5W1H ถูกเรียกว่า “Kipling Method” ซึ่งวิธีนี้จะช่วยในการสำรวจปัญหาโดยการท้าทายด้วยคำถาม

5W1H มีส่วนประกอบดังนี้

  • Who ใคร คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า ใครรับผิดชอบ ใครเกี่ยวข้อง ใครได้รับผลกระทบ ในเรื่องนั้นมีใครบ้าง
  • What ทำอะไร คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า เราจะทำอะไร แต่ละคนทำอะไรบ้าง
  • Where ที่ไหน คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า สถานที่ที่เราจะทำว่าจะทำที่ไหน เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นอยู่ที่ไหน
  • When เมื่อไหร่ คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า ระยะเวลาที่จะทำจนถึงสิ้นสุด เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำเมื่อวัน เดือน ปี ใด
  • Why ทำไม คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า สิ่งที่เราจะทำนั้น ทำด้วยเหตุผลใด เหตุใดจึงได้ทำสิ่งนั้น หรือเกิดเหตุการณ์นั้นๆ
  • How อย่างไร คือ สิ่งที่เราต้องรู้ว่า เราจะสามารถทำทุกอย่างให้บรรลุผลได้อย่างไร เหตุการณ์หรือสิ่งที่ทำนั้นทำอย่างไรบ้าง
การใช้เทคนิค 5W1H ในการวิเคราะห์แก้ปัญหานั้น ส่วนใหญ่เราจะใช้ในขั้นตอนของการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยการตั้งคำถาม Who is it about? What happened?  When did it take place? Where did it take place? และ Why did it happen? การตั้งคำถามดังกล่าวจะทำให้เราได้คำตอบในแต่ละประเด็น แต่ละข้อของคำถาม
เทคนิค 5W1H จะใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือปัญหา ได้เกือบทุกรูปแบบ เทคนิค  5W1H เป็นการคิดวิเคราะห์ (Analysis Thinking) ที่ใช้ความสามารถในการจำแนก แยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งอาจจะเป็นวัตถุ สิ่งของ เรื่องราว หรือเหตุการณ์ นำมาหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นความเป็นจริง หรือที่เป็นสิ่งที่สำคัญ จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาจัดระบบ เรียบเรียงใหม่ให้ง่ายแก่ต่อการทำความเข้าใจ

ประโยชน์ของการคิดวิเคราะห์  5W1H

  • ทำให้เรารู้ข้อเท็จจริง รู้เหตุผลเบื้องหลังของสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์นั้น
  • ใช้เป็นฐานความรู้ในการนำไปใช้ในการตัดสินใจแก้ปัญหา
  • ทำให้เราหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
  • ทำให้เราสามารถประมาณความน่าจะเป็นได้

ตัวอย่างการใช้ 5W1H ในการวิเคราะห์ข้อมูล

เริ่มต้นก็คือ เราต้องตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบในแต่ละหัวข้อคำถาม โดยการตั้งคำถามอาจไม่จำเป็นต้องเรียงข้อของคำถาม แต่พิจารณาจากความเหมาะสม การยกตัวอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไร แต่จุดประสงค์คือต้องการให้เห็นหรือเข้าใจแนวความคิดในการตั้งคำถามเท่านั้น เราจะยกตัวอย่างการเริ่มต้นทำธุรกิจ
คำถามแรก W  - Who ตัวแรก – ใครคือลูกค้าของเรา? ใครคือกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเรา? เราควรระบุกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราได้ เช่น อายุ, เพศ, การศึกษา, ศาสนา, อาชีพ, เงินเดือน, ที่อยู่อาศัย, ขนาดครัวเรือน พฤติกรรมการบริโภค ข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยทำให้เราสามารถ ระบุกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเราได้ชัดเจน เพื่อที่เราจะสามารถวางแผนการผลิต แผนการตลาด หรือแผนการสร้างสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราได้อย่างถูกต้อง
คำถามที่สอง W – What – เราต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าของเราต้องการ? เราควรระบุรูปแบบของสินค้าหรือบริการของเราได้ว่า รูปแบบไหนที่ลูกค้าของเราต้องการ และเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเราได้ และอะไรที่จะทำให้เราสามารถสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าหรือบริการของเราจากคู่แข่งของเราได้
คำถามที่สาม W – Where – ลูกค้าของเราอยู่ที่ไหน? เราควรระบุได้ว่าลูกค้าของเราอยู่ที่ไหนบ้าง และที่ไหนคือที่ที่เราจะสามารถนำเสนอสินค้าของเราให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
คำถามที่สี่ W – When – เมื่อไรที่ลูกค้าของเรามีความต้องการสินค้า? เราควรระบุได้ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราต้องการสินค้าหรือบริการของเราเมื่อไร ในช่วงเวลาไหน และต้องการบ่อยแค่ไหน ซึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถกำหนดและวางแผนต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าของเราได้อย่างถูกต้อง
คำถามที่ห้า W – Why – ทำไมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราต้องซื้อหรือใช้บริการของเรา? เราควรระบุได้ว่าทำไมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของเรา แทนที่จะซื้อจากคู่แข่งของเรา หรือทำไมเราต้องเข้ามาทำธุรกิจนี้
คำถามสุดท้าย H – How – เราจะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราได้อย่างไร? เราควรระบุได้ว่า เราจะสามารถเข้าถึงลูกค้าของเราได้ด้วยวิธีไหน อย่างไร ซึ่งเราควรมีการวางแผนและกำหนดวิธีการที่เราสามารถเข้าถึงลูกค้าของเราได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด



cradit by http://www.patanasongsivilai.com/blog/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-5w1h/

6. ตัวอย่างการออกแบบ

ตัวอย่างการออกแบบอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) 

1.inevis GmbH Branding by Rayz Ong

001+branding+logo
001+branding+business+card
001+branding+stationery

2.Syonix Branding by Necon

002+branding+logo
002+branding+business+card
002+branding+stationery

3.Coffee & Kitchen Branding by moodley brand identity

003+branding+business+card
003+branding+logo
003+branding+stationery (1)
003+branding+stationery

4.Tencent Design Branding by zhang yiking

004+branding+logo
004+branding+stationery

5.CULTURAL INNOVATORS NETWORK Branding by salma shamel

005+branding+logo
005+branding+business+card
005+branding+stationery

6.Solarium & Patio de l’Outaouais by Pascal Potvin

006+branding+logo
006+branding+business+card
006+branding+stationery

7.Innova Interactive Identity Branding by Mohd Almousa

007+branding+logo
007+branding+business+card
007+branding+stationery

8.Caramba´s Branding by Eugenia Inchauspe

008+branding+logo
008+branding+business+card
008+branding+stationery

9.Nacion Branding by Anagrama

009+branding+logo
009+branding+business+card
009+branding+stationery

10.Creature Identity by Clara Mulligan

0010+branding+business+card
0010+branding+logo
0010+branding+stationery

11.Almeida Franca Branding by BR/BAUEN

0011+branding+logo
0011+branding+business+card
0011+branding+stationery (1)
0011+branding+stationery

12.Formløs Brand Lab by Martin Albrecht

0012+branding+logo
0012+branding+business+card
0012+branding+stationery

13.Aemeg Branding by Amanda Louisi

0013+branding+business+card
0013+branding+logo
0013+branding+stationery

14.XYY Branding by Maurizio Pagnozzi

0014+branding+business+card
0014+branding+logo
0014+branding+stationery

15.Anthewood Furniture Branding by Sebastian Bednarek

0015+branding+business+card
0015+branding+logo
0015+branding+stationery

16.Suzi Zutic Branding by Maurizio Pagnozzi

0016+branding+logo
0016+branding+business+card
0016+branding+stationery

17.JRUC Branding by Paula Sare


0017+branding+logo

0017+branding+business+card
0017+branding+stationery



cradit by https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=1&cad=rja&uact=8&ved=0CB0QFjAAahUKEwjvoPTW--PGAhXJCY4KHdqkA-k&url=http%3A%2F%2Fwww.designil.com%2Fhow-to-logo-design-tips.html&ei=mOapVe_0IMmTuATayY7IDg&usg=AFQjCNHBqP1QLVIPBJCyYBtWR49_lXPLlg&sig2=0dqXcVwcIr-y3U8zztCTVw